อาร์เซนอลบุกคว้าชัย วูล์ฟแฮมป์ตันเจ็บหนัก

ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา บรรยากาศที่สนาม โมลินิวซ์ สเตเดียม เต็มไปด้วยความตึงเครียดเมื่อ หมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เกมนี้ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยความดุเดือดทางแท็กติก แต่ยังมีจังหวะดราม่าที่ผู้เล่นทั้งสองฝั่งต้องออกจากสนามด้วยใบแดง

เกมในครึ่งแรกแม้ไม่มีประตูเกิดขึ้น แต่จังหวะสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเกมก็คือการที่ ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี นักเตะดาวรุ่งอาร์เซนอล ถูกใบแดงโดยตรงจากการตัดฟาวล์ โดเฮอร์ตี ในนาทีที่ 43 ทำให้อาร์เซนอลต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก แม้จะเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า แต่ทีมของ มิเกล อาร์เตตา ก็ยังรักษาสมดุลในเกมเอาไว้ได้จนจบครึ่งแรกแบบไร้สกอร์

ครึ่งหลังกลับมาเพิ่มดีกรีความเดือดเมื่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็ต้องสูญเสียผู้เล่นไปเช่นกัน ชูเอา โกเมส ถูกไล่ออกจากสนามหลังทำฟาวล์หนักใส่ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ในนาทีที่ 70 และนี่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม

เพียง 4 นาทีหลังการเสียผู้เล่นของวูล์ฟแฮมป์ตัน อาร์เซนอลอาศัยความได้เปรียบทำประตูขึ้นนำในนาทีที่ 74 จากการยิงอย่างเฉียบขาดของ ริคคาร์โด คาลาฟิออรี วิงแบ็กจอมลุยที่ฉวยโอกาสสังหารด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งตรงเสียบตาข่าย

ศึกแห่งใบแดง จุดเปลี่ยนสองจังหวะในเกม

เกมที่ดำเนินมาด้วยความระมัดระวังถูกทำลายสมดุลในจังหวะใบแดงของ ลูอิส-สเคลลี ช่วงครึ่งแรก ซึ่งทำให้ความกดดันไปตกอยู่ที่อาร์เซนอล แม้เกมในครึ่งหลังจะพลิกกลับมาสมดุลจากการที่โกเมสถูกไล่ออก แต่ช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างนั้นได้พิสูจน์การตัดสินใจที่เด็ดขาดของอาร์เตตาในการเปลี่ยนแท็กติกอย่างรวดเร็ว

ชัยชนะที่บ่งบอกถึงความกระหายของอาร์เซนอล

สำหรับอาร์เซนอล การคว้า 3 แต้มในเกมนี้ช่วยยกระดับโอกาสลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ พวกเขามี 47 คะแนนจากการแข่งขัน 20 นัด ยังคงอยู่ในตำแหน่งรองจ่าฝูง โดยตามหลังลิเวอร์พูล 6 คะแนน

สถานการณ์ของวูล์ฟแฮมป์ตันหลังเกม การบ้านของแกรี โอนีล

ฝั่งวูล์ฟแฮมป์ตันที่ต้องรับมือกับแรงกดดันอย่างหนักมีปัญหาด้านการควบคุมเกมในสถานการณ์ตึงเครียด และจังหวะเสียใบแดงของโกเมสถือเป็นบทเรียนราคาแพง โอนีลต้องรีบปรับแผนเพื่อให้ทีมมีความเฉียบขาดและมีวินัยมากขึ้น

#พรีเมียร์ลีก อังกฤษ #โมลินิวซ์ สเตเดียม #วูล์ฟแฮมป์ตัน #อาร์เซนอล #โดเฮอร์ตี #มิเกล อาร์เตตา #ชูเอา โกเมส #ยูร์เรียน ทิมเบอร์ #ริคคาร์โด คาลาฟิออรี #ลูอิส-สเคลลี

Credit: ดูบอล7m , ดูบอลออนไลน์ , ดูบอลออนไลน์ฟรี