แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มแกร่ง รัวแซง เชลซี ทะยานติดท็อปโฟร์

การแข่งขัน พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดถือเป็นอีกเกมที่คอบอลทั่วโลกจับตามอง เมื่อ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านที่ เอติฮัด สเตเดียม พบกับ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ซึ่งต่างต้องการแต้มสำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล การดวลฝีเท้าครั้งนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและจังหวะพลิกล็อกที่ทำให้แฟนบอลนั่งไม่ติดเก้าอี้

เปิดฉากเกม: เชลซีนำก่อน ความหวังใหม่จากมาดูเอเก

เริ่มเกมได้เพียง 3 นาที เชลซีก็สามารถทำเซอร์ไพรส์ได้อย่างรวดเร็วจากการยิงของ โนนี มาดูเอเก ดาวรุ่งที่กำลังฉายแววเด่นในซีซั่นนี้ ลูกยิงในระยะเผาขนช่วยให้ทีมเยือนได้เปรียบอย่างที่ใครคาดไม่ถึง เกมในครึ่งแรกจึงเป็นการบีบเกมอย่างหนักของเจ้าบ้านที่พยายามจะเอาคืน

กวาร์ดิโอล: ฮีโร่หัวโหม่ง จุดประกายความหวัง

ช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 42 แมนฯ ซิตี้ ได้เฮลั่นสนามจากลูกโหม่งที่แม่นยำของ ยอสโก กวาร์ดิโอล เซ็นเตอร์แบ็กชาวโครเอเชียที่เติมขึ้นมาในจังหวะเตะมุม ความสูงและความเด็ดขาดในการเล่นบอลกลางอากาศของเขากลายเป็นจุดพลิกเกมให้เจ้าถิ่นเริ่มกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง

ฮาลันด์: ตอกย้ำความคมในเขตโทษ

ในนาทีที่ 68 ความพยายามของซิตี้ก็สัมฤทธิ์ผลจาก เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่โชว์ทักษะการเล่นที่ยอดเยี่ยม เขารับบอลจากจังหวะตัดเข้ากลาง ก่อนจะจบด้วยการซัดอย่างเฉียบขาด บอลพุ่งเข้าสามเหลี่ยมชนิดที่ผู้รักษาประตูเชลซีหมดสิทธิ์เซฟ ชัยชนะเริ่มมีแววชัดขึ้นในจังหวะนี้

ฟิล โฟเดน: ตัวจบสกอร์ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

เมื่อเกมเข้าสู่ช่วงท้าย นาทีที่ 87 ฟิล โฟเดน แข้งพรสวรรค์ของทีมชาติอังกฤษ จบเกมอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการทำประตูสุดสวยจากการประสานงานกันที่ไร้ที่ติของแดนหน้า จังหวะนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความมั่นใจของนักเตะเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความลงตัวของระบบทีมที่เป๊ป กวาร์ดิโอลา ปลูกฝังมาอย่างเหนียวแน่น

แมนฯ ซิตี้ ขึ้นอันดับ 4 เชลซีงานหนักในการลุ้นท็อปโฟร์

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 41 คะแนน ทะยานขึ้นอันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีก ขณะที่ เชลซี หลังจากผิดหวังในเกมนี้ยังคงรั้งอันดับ 6 มี 40 คะแนน แต่สถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วงเมื่อหลายทีมคู่แข่งเริ่มขยับทำแต้มไล่จี้กันมา

#พรีเมียร์ลีก #แมนเชสเตอร์ ซิตี้ #เอติฮัด สเตเดียม #เชลซี #โนนี มาดูเอเก #ยอสโก กวาร์ดิโอล #เออร์ลิง ฮาลันด์ #ฟิล โฟเดน

Credit: ดูบอล7m , ดูบอลออนไลน์ , ดูบอลออนไลน์ฟรี